คมนาคม

กทพ. ลงดาบผู้รับจ้าง สั่งหยุดงาน 7 วัน พร้อมให้เยียวยาผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบกรณีอุบัติเหตุบนถนนพระราม 2

กทพ. ลงดาบผู้รับจ้าง กทพ. ลงดาบผู้รับจ้าง สั่งหยุดงาน 7 วัน เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง และให้เยียวยาผู้สูญเสีย ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ กรณีอุบัติเหตุบนถนนพระราม 2

​ จากกรณี คานคอนกรีตสำเร็จรูป (Segment) จากการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3- ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 2 หล่นในขณะติดตั้ง บนถนนพระรามที่ 2 ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนมีรถของประชาชนได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เวลา 16.20 น. โดยประมาณ ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นในทันที โดยสอบถามถึงสาเหตุ มาตรการความปลอดภัยในการทำงาน และให้บริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานและ ตัวแทนบริษัทที่เกี่ยวข้อง (กิจการร่วมค้า ซีทีบี ประกอบด้วย บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง คัมปะนี ลิมิเต็ด บริษัท ทิพากร จำกัด และ บริษัท บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง จำกัด) เข้าให้รายละเอียดเพิ่มเติมในวันนี้ โดยเบื้องต้น ได้สั่งให้ผู้รับจ้างหยุดปฏิบัติงาน 7 วัน เพื่อหาสาเหตุจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงยังได้กำชับให้มีการดูแลเยียวยาผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่

​นายสุรเชษฐ์ฯ ผู้ว่าการ กทพ. เปิดเผยว่า ภายใน 7 วันนี้ กทพ. จะดำเนินการทบทวนมาตรการความปลอดภัย ทั้งหมดให้เพิ่มมากกว่าเดิม เพื่อให้เกิดความมั่นใจในโครงการก่อสร้างที่ กทพ. รับผิดชอบอยู่ สำหรับโครงการ ในอนาคต กทพ. จะปรับปรุงในกระบวนการคัดเลือกผู้รับจ้าง การปรับปรุงสัญญาจ้างให้เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างขึ้นจากมาตรการเดิม รวมถึงมีบทลงโทษหรือบทปรับที่รุนแรงขึ้น เพื่อเพิ่มความรัดกุม ในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการเลือกใช้เทคนิคการก่อสร้าง และระบบการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก

“กทพ. มีความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้สูญเสียและต้องขอโทษที่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกของ กทพ. ที่เกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต ทำให้ กทพ. จะต้องเร่งหาสาเหตุที่แท้จริง โดยได้ประสานงานกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ให้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว พร้อมกันนี้กระทรวงคมนาคมและ กทพ. ยังได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงทั้งหมด และหากพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากการกระทำโดยประมาทหรือเลินเล่อ โดยผู้ใดหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง กทพ. จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายจนถึงที่สุด” นายสุรเชษฐ์ฯ กล่าว ในท้ายที่สุด

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button