พลังงาน

“กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” กดปุ่มเปิดตัวโครงการ “คนบันดาลไฟ” เปิดไฮไลท์ดึงอินฟูลเอนเซอร์ สร้างความรู้พลังงานสีเขียวให้กับประชาชน สู่ยุคการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด

กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. กดปุ่มเปิดโครงการ “คนบันดาลไฟ” ภายใต้แนวคิด “ใครไม่ Change Climate Change” เพื่อขยายฐานความรู้ สร้างความเข้าใจการเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน (Energy Transition) ตามกรอบนโยบายพลังงาน 4D1E รวมถึงสื่อสารบทบาท ภารกิจของ กกพ. ไปพร้อมกับการกระตุ้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ไขวิกฤตและลดผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เปิดไฮไลท์นำทัพอินฟูลเอนเซอร์ทั่วเมืองไทย สร้างความรู้ประชาชนให้เข้าใจพลังงานสีเขียว

วานนี้ (30 พ.ค. 66) กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการ “คนบันดาลไฟ : ใครไม่ Change Climate Change” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ประชาชนทั่วไป กลุ่มภาคธุรกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และ SME’s รวมถึงกลุ่มเด็กและเยาวชน ให้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนผ่านพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด (Energy Transition) โดยเน้นการเชื่อมโยงนโยบายพลังงาน 4D1E พลังงานหมุนเวียน อาทิ Biogas Biomass Solar Power Waste to Energy ตลอดจนเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานใหม่ อาทิ ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System : ESS) รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ผ่านรูปแบบการสื่อสารที่น่าสนใจ จะส่งผลให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ กระตุ้นให้เกิดการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น รวมถึงสื่อสารถึงบทบาท ภารกิจของ กกพ. ที่มุ่งหวังให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่วมมือแก้ไขวิกฤตและลดผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ไปด้วยกัน ณ สามย่านมิตรทาวน์ ชั้น G บริเวณลานกิจกรรม

ดร.บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการกำกับกิจการพลังงาน กล่าวว่า ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 และทางสำนักงาน กกพ. ได้มีบทบาทสำคัญในการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อลดภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะภาคขนส่ง และพลังงานที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 70% ไม่ว่าจะเป็นพลังงานการรถยนต์ การใช้ไฟฟ้าการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย ทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบร่วมกัน เพราะภาคพลังงานได้เข้าไปเชื่อมโยงในการเปลี่ยนแปลงภูมิภาคอากาศ

ทางสำนักงาน กกพ. จึงได้สานต่อโครงการ “คนบันดาลไฟ” จาก 2 ปีที่แล้วที่เคยจัดขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งได้แก่ พลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานจากขยะ เป็นต้น ที่ปัจจุบันถูกเรียกว่า ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เนื่องจากเป็นพลังงานที่ไม่ได้เกิดจากการเผาไหม้ จึงช่วยลดก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ อีกทั้ง เพื่อเผยแพร่ความรู้ใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานที่ภาครัฐมีความมุ่งหวังว่า หากเกิดการใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มประชาชนจะช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ได้

“สำนักงาน กกพ. ทำงานหลายด้านเพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ นอกจากกิจกรรมคนบันดาลไฟแล้ว ที่กำลังทำเป็นการดำเนินการอัตราค่าไฟสีเขียว ซึ่งเป็นไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม รวมถึงพลังงานชีวมวล ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าววันนี้เราจะรับซื้อจำนวน 5,200 เมกะวัตต์ เพื่อให้ประเทศเราได้ใช้ไฟฟ้าสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ทางสำนักงาน กกพ. ยังได้ส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ที่คนไทยกำลังตื่นตัวเป็นนิยมใช้กันมากขึ้นตามท้องถนน  การกำหนดอัตราค่าไฟสำหรับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโครงการโซลาร์ภาคประชาชน เป็นการส่งเสริมประชาชนติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน มีหลายบ้านขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฯ ในอัตรา 2.20 บาทต่อหน่วย เรื่องเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ ทางสำนักงาน กกพ. ได้ทำในช่วงที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ลดการใช้พลังานฟอสซิล หันมาใช้ไฟฟ้าสีเขียว และช่วยเพิ่มการใช้ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ดร.บัณฑูร  กล่าวด้วยว่า กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. ตระหนักดีว่าข้อมูลเนื้อหาเรื่องพลังงานสะอาดเป็นเรื่องยาก จึงกำหนดให้มีการสื่อสารเรื่องพลังงานไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโครงการคนบันดาลไฟ : ใครไม่ Change Climate Change ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในปี 2566 นี้ โดยมอบหมายให้ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด เป็นผู้ดำเนินโครงการฯ โดยมุ่งเน้นการสื่อสารรูปแบบ Multi-Way ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย ผ่านกลยุทธ์การสื่อสาร “3E” คือ Easy (เข้าใจง่าย) Edutainment (ผสมผสานข้อมูลและความรู้) Extensive (ปลุกจิตสำนึกให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายและแพร่หลายสู่สังคมอย่างยั่งยืน) โดยมุ่งเน้นการสื่อสารเป้าหมายหลักตามบทบาท และภารกิจของ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานดั้งเดิมไปสู่การใช้พลังงานสะอาด (Energy Transition) เพื่อลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

ตามนโยบาย 4D1E รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีแบะนวัตกรรมด้านพลังงาน ESS และ EV ด้วยการสร้างการรับรู้ผ่านรายการโทรทัศน์ “คนบันดาลไฟ The Reality” รูปแบบ “เรียลลิตี้” (Reality) ที่น่าติดตาม โดยได้รับเกียรติจากจากบุคคลที่มีชื่อเสียงจากแวดวงต่างๆ อาทิ การเมือง ธุรกิจ SME’s นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ อินฟูลเอนเซอร์ มารับภารกิจการเรียนรู้การใช้พลังงานสะอาด ซึ่งอาจจะนำไปสู่วิถีชีวิตแบบเดิมของพวกเขาให้เปลี่ยนไป โดยจะเผยแพร่ทุกวันเสาร์ ทาง Amarin TV ช่อง 34HD เวลา 14.20-14.50 น.

“แคน” อติรุจ กิตตะพัฒนะ ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง (ซ้าย) และ“เจ้จง” จงใจ กิจแสวง เจ้าของร้านหมูทอดเจ๊จง (ขวา)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานเปิดตัวเปิดโครงการ “คนบันดาลไฟ : ใครไม่ Change Climate Change ครั้งนี้ ได้เปิดตัว อินฟูลเอนเซอร์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และสร้างแรงบันดาลใจในการช่วยลดภาวะโลกร้อน อาทิ “แคน” อติรุจ กิตตะพัฒนะ ผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ซึ่งตระหนักถึงอันตรายและความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก จึงเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมส่วนตัว เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้ ปฏิเสธการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เป็นต้น

“คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มาบอกเล่าถึงชีวิตส่วนตัวที่ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ขยะ พร้อมได้โชว์กระเป๋าเป้ เสื้อผ้า และรองเท้าที่ผลิตจากขยะพลาสติก เพื่อลดปริมาณขยะในประเทศไทย รวมถึงการนำขยะพลาสติกไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า เพื่อที่จะได้เห็นคุณค่าของขยะที่สามารถสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้า และลดภาวะโลกร้อนด้วย

ด้าน “เจ้จง” จงใจ กิจแสวง เจ้าของร้านหมูทอดเจ๊จง หมูทอดร้อยล้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังย่านคลองเตย ก็ได้ร่วมถ่ายทอดการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ด้วยการหันมาคัดแยกขยะที่ร้านอย่างจริงจัย หลังจากไปดูงานทราบว่าขยะพลาสติกสามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิงป้อนโรงไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าได้

นอกจากนี้ ยังมีอินฟูลเอ็นเซอร์ อย่าง “คุณจุรี นุ่มแก้ว” หญิงสาวชาวบ้านแดนปักษ์ใต้ ได้พาไปค้นหาคำตอบเศษไม้ยางพารา นำไปเป็นเชื้อเพลิงเตาชีวมวลช่วยเหลือชุมชนในการทำสมุนไพร ย้อมผ้า และอุตสาหกรรมทำขนมในท้องถิ่น และ “แพรรี่” ไพรวัลย์ วรรณบุตร” ได้เปิดบ้านที่อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี พาไปชมโรงงานน้ำพริกกากหมู และเบื้องหลังการไลฟ์ขายสินค้า เพื่อให้เห็นว่าทุกกิจกรรมล้วนเกี่ยวกับการใช้พลังงาน ซึ่งทำให้แพรรี่และครอบครัวต้องจ่ายค่าไฟฟ้าสูงมาก

และ “หมอบี” เสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล จะพาไปดูการคัดแยกขยะที่บ้านลานเสียงธรรมของหมอบีเอง ซึ่งเป็นขยะที่เกิดจากโรงทานเพื่อแบ่งปันอาหารให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมสายธรรม ทำให้มีขยะและเศษอาหารเหลือใช้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องราวของอินฟูลเอนเซอร์ที่กล่าวมาทั้งหมดสามารถติดตามชมได้ที่ช่องอัมรินทร์ทีวี

และเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ผ่าน Advertising Short Film ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Energy Transition and Climate Change จำนวน 4 เรื่อง 4 อารมณ์ ได้แก่ Comedy & Music (สนุกสนานและเพลิดเพลิน) Drama (สะเทือนใจ) Feel Good (น่ารัก/สร้างแรงบันดาลใจ) และ Horror (สยองขวัญ) ให้กลุ่มเป้าหมายเกิดการรับรู้อย่างกว้างขวางมากขึ้น และเตรียมพบการกลับมาอีกครั้งของ “กบจูเนียร์” กิจกรรมประกวดสื่อสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (ตอนต้น-ตอนปลาย) และอาชีวศึกษา (ปวช.) ในหัวข้อ “ใครไม่ Change Climate Change” เพื่อกระตุ้นและสร้างความตระหนักรู้เรื่องพลังงานไฟฟ้าผ่านกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ชิงเงินรางวัลทุนการศึกษารวมทั้งสิ้นกว่า 700,000 บาท

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน (Energy Transition) ไปสู่การใช้พลังงานสะอาด และติดตามข่าวสารต่างๆ ของโครงการฯ ได้ที่ Facebook Fanpage : คนบันดาลไฟ https://www.facebook.com/khonbandarnfai // Website คนบันดาลไฟ : www.khonbandarnfai.org และ YouTube คนบันดาลไฟ : https://www.youtube.com/@khonbandarnfai

ปราศจากไวรัสwww.avast.com

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button