สังคมไทยมุง

“เอ็กโก กรุ๊ป” คว้า SET ESG Ratings ระดับ “AA” และผลประเมินรายงาน CG ระดับ “ดีเลิศ 5 ดาว”

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ติดอันดับการประเมินความยั่งยืนระดับประเทศที่จัดและสนับสนุนโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2566 ระดับ “AA” และ ผลประเมินรายงานการกำกับดูแลกิจการ (CGR) ปี 2566 ระดับ “ดีเลิศ 5 ดาว” ตอกย้ำความมั่นใจนักลงทุนต่อการเป็นบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ให้ความสำคัญและบูรณาการเรื่องความยั่งยืน (ESG) ให้อยู่ในทุกกระบวนการการทำงานและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานอย่างยั่งยืนมากว่า 31 ปี ภายใต้การกำกับกิจการที่ดี โปร่งใส และตรวจสอบได้ ควบคู่กับพันธกิจในการเป็นพลเมืองที่ดีด้วยการดูแลและอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมอย่างเกื้อกูล โดยได้บูรณาการเรื่องความยั่งยืน (ESG) ให้อยู่ในทุกกระบวนการการทำงานและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ

ความมุ่งมั่นดังกล่าวส่งผลให้เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับคะแนนการประเมินความยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2566 ระดับ AA ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดการประเมิน SET ESG Ratings ซึ่งพัฒนามาจากการประเมิน “รายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI” เดิม ที่เอ็กโก กรุ๊ป เคยได้รับการคัดเลือกให้เป็นหุ้นยั่งยืน 8 ปีต่อเนื่อง และประกาศผลการประเมินในรูปแบบ ESG Ratings เป็นครั้งแรก เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนมีความต้องการข้อมูลด้าน ESG เพื่อประกอบการตัดสินใจมากขึ้น

นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังได้รับผลการประเมินจากการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies – CGR) ปี 2566 ระดับ “ดีเลิศ 5 ดาว” ซึ่งจัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และได้รับการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับปีนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับคะแนนประเมิน 104% สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนโดยรวม ซึ่งอยู่ที่ 81% โดยเกณฑ์การประเมินใหม่ที่เริ่มใช้ในปีนี้มีรายละเอียดมากขึ้นตามมาตรฐานสากล ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว รวมถึงมีการปรับบทบาทและภาวะผู้นำของคณะกรรมการในเชิงรุกมากขึ้น

“ผลการประเมิน SET ESG Ratings และ CGR ปี 2566 สะท้อนถึงการดำเนินงานของเอ็กโก กรุ๊ป ที่ให้ความสำคัญและมุ่งพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้เทียบเท่ากับภาคธุรกิจในระดับสากล ซึ่งไม่เพียงสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม ในฐานะองค์กรที่เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเอ็กโก กรุ๊ป ในการ “เป็นบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” นายเทพรัตน์ กล่าวสรุป

เกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป

ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 7,023 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,418 เมกะวัตต์ (คิดเป็นสัดส่วน 20% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่าง ๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม “เอ็กโกระยอง” บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน “เพียร์ พาวเวอร์” บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม “อินโนพาวเวอร์” เอ็กโก กรุ๊ป ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 3 ปีต่อเนื่อง และตั้งเป้าบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050 ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเอ็กโก กรุ๊ป เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.egco.com และเฟซบุ๊ก www.facebook.com/EGCOGroup

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button