พลังงาน

“กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ยันสภาพคล่องยังพอตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

สกนช. ขานรับมาตรการภาครัฐลดผลกระทบค่าครองชีพ ตรึงราคาขายปลีกน้ำมีนดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตรไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 พร้อมใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซ LPG ให้ไม่ขึ้นสูงเกินไปช่วง 3 เดือน ตั้งแต่เมษายน – มิถุนายน 2565 แจงฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบกว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่ยังมีสภาพคล่องเพียงพอในการบริหารจัดการเพื่อลดผลกระทบด้านพลังงานของประชาชน

วันนี้ (23 มี.ค.65) นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกเดือนมีนาคม 2565 ว่า ยังคงมีความผันผวนเนื่องจากความขัดแย้งของรัสเชีย – ยูเครน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 ราคาน้ำมันดูไบอยู่ที่ 111.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาเบนซินอยู่ที่ 133.22 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาดีเซลอยู่ที่ 139.51 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลตั้งแต่วันที่ 1 – 22 มีนาคม 2565 จำนวน 13 ครั้ง  ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีการปรับเพิ่มลดตามราคาน้ำมันที่ขึ้นลงเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 30 บาท/ลิตร และค่าการตลาดอยู่ที่ประมาณ 1.40 บาท/ลิตร ล่าสุดวันที่ 22 มีนาคม 2565 อัตราชดเชยน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 7.97 บาท/ลิตร

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 20 มีนาคม 2565 ติดลบ 32,831 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน ติดลบ 4,028 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 28,803 ล้านบาท จำนวนเงินฝากที่กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินมีจำนวน 16,500 ล้านบาท สภาพคล่อง ณ วันที่ 22 มีนาคม 2565 กลุ่มน้ำมันมีรายจ่ายวันละ 546.12 ล้านบาท กลุ่มก๊าซ LPG มีรายจ่ายวันละ 87.18 ล้านบาท

ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงมีบทบาทหลักในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศในช่วงที่เกิดวิกฤตด้านราคาพลังงาน โดยกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะเข้าไปชดเชยเพื่อให้น้ำมันดีเซลอยู่ที่ระดับราคาไม่เกิน 30 บาท/ลิตร และล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้ออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนในหลายด้าน โดยจะใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซ LPG ให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป

สำหรับการปรับราคาก๊าซ LPG คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 ได้มีมติเห็นชอบให้ทยอยปรับขึ้นราคา LPG 3 ครั้ง โดยปรับขึ้นเดือนละ 1 บาท/กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ทำให้ราคาขายปลีกจะปรับขึ้นเป็น 333 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม 1 พฤษภาคม 2565 ราคาขายปลีกจะปรับขึ้นเป็น 348 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม และราคาขายปลีกจะปรับขึ้นเป็น 363 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม จากปัจจุบันตรึงราคาก๊าซ LPG ไว้ที่ 318 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม

ในการปรับขึ้นราคาขายปลีก LPG ครั้งนี้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงมีรายจ่ายเพื่ออุดหนุนราคาขายปลีกโดยในเดือนเมษายน 2565 มีรายจ่ายประมาณ 2,418 ล้านบาท/เดือน เดือนพฤษภาคม 2565 มีรายจ่ายประมาณ 2,133 ล้านบาท/เดือน และเดือนมิถุนายน 2565 มีรายจ่ายประมาณเดือนละ 1,849 ล้านบาท/เดือน

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการกู้เงินยืมจากสถาบันการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังอยู่ในช่วงเวลาการยื่นข้อเสนอของสถาบันการเงินถึงวันที่ 31 มีนาคม 2565 ซึ่งยังเป็นไปตามเป้าหมายว่าจะได้สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนเมษายน 2565

นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 เห็นเชอบร่างแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2563 – 2567 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติงานในเรื่องหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยต้องมีจำนวนเงินเพียงพอเพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 พร้อมทั้งมีการปรับกลยุทธ์การถอนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (Exit Strategy) โดยเมื่อฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใกล้ติดลบหากระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังอยู่ในระดับวิกฤตจนส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ ให้เริ่มดำเนินกลยุทธ์ถอนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงโดยปรับลดการช่วยเหลือลง

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button