การเกษตร

กรมส่งเสริมการเกษตร ชูแปลงใหญ่ “ทุเรียนวังโตนด” เจ๋ง ผลิตทุเรียนเกรด A-B ได้ 80% ส่งออกปลอดโควิด

กรมส่งเสริมการเกษตร ชูแปลงใหญ่ “ทุเรียนวังโตนด” เจ๋ง ผลิตทุเรียนเกรด A-B ได้ 80% พร้อมเสริมมาตรการ Zero Covid อย่างเข้มข้น

 

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร (ขวา)

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อยกระดับเกษตรกร โดยนำหลักเกษตรสมัยใหม่มาบริหารจัดการร่วมกับการเชื่อมโยงตลาดในยุคปัจจุบัน เพื่อลดต้นทุนในการผลิต ตามโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ตามนโยบายสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตรของ ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจัดทำโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่มีการบริหารจัดการร่วมกัน โดยให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน ผลักดันให้เกษตรกรรวมกลุ่มในการผลิตเพื่อร่วมกันจัดหาปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพดี ราคาถูก และการใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่เหมาะสม ซึ่งหนึ่งในแปลงตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในการยกระดับการบริหารจัดการแปลง คือ แปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ที่ 6 ตำบลวังโตนด อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ที่ได้เข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดกับกรมส่งเสริมการเกษตรในปี 2563 จนสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ ผลิตทุเรียนเกรด A และ B ได้ถึงร้อยละ 80 และปลอดทุเรียนอ่อนร้อยละ 100

นายมณี ภาระเปลื้อง ประธานแปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ที่ 6 ตำบลวังโตนด

ด้านนายมณี ภาระเปลื้อง ประธานแปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ที่ 6 ตำบลวังโตนด กล่าวว่า ปัจจุบันแปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ที่ 6 ตำบลวังโตนด มีสมาชิกจำนวน 35 ราย พื้นที่ปลูกทุเรียนรวม 300 ไร่ ผลผลิตโดยเฉลี่ยต่อปีประมาณ 500 ตัน สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ปีละประมาณ 35 ล้านบาท จากการที่เข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดกับกรมส่งเสริมการเกษตร ถือว่าสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรสมาชิกเป็นอย่างมาก เพราะทำให้สามารถบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ สามารถส่งผลผลิตเพื่อการส่งออกได้อย่างยั่งยืน ด้วยการนำเครื่องจักรมาช่วยในขั้นตอนการลดต้นทุนการผลิต ลดปัญหาแรงงานและการพัฒนาคุณภาพผลผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการทั้งตลาดภายในประเทศ และตลาดต่างประเทศ รวมทั้งค้นคว้านำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ควบคู่กับการทำการเกษตร พร้อมกับมีการปรับตัวแก้ไขปัญหาและพัฒนาการบริหารการจัดงานสวนให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป

แปลงใหญ่ทุเรียนแห่งนี้สามารถสร้างผลผลิตทุเรียนเป็นเกรด A และ B ได้ถึงร้อยละ 80 ด้วยการใช้เทคโนโลยี ร่วมกับวิธีการตัดแต่งผล และการไว้ผลใกล้ด้านบนของต้น/ปลายกิ่ง (โรงอาหาร) เพื่อเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ซึ่งประสบผลสำเร็จ ทำให้ผลผลิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี และลดอัตราผลผลิตที่เป็นตำหนิ และเลือกเก็บเกี่ยวเฉพาะผลทุเรียนที่แก่จัดเท่านั้น โดยนอกจากการสังเกตุลักษณะผลแล้ว ยังใช้วิธีการนับอายุทุเรียน เพื่อให้ปลอดทุเรียนอ่อน 100%และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID – 19 ระดับสวนเกษตรกร หรือ  Zero Covid อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เกษตรกรผู้ปลูกทุกเรียนทุกคนต้องดำเนินการ เพราะในฤดูกาลผลไม้ปีนี้ จีนในฐานะประเทศคู่ค้าสำคัญของผลไม้ของภาคตะวันออกได้กำหนดไว้ว่าต้องตรวจไม่พบเชื้อ COVID -19 ทั้งในคน ผลไม้ และองค์ประกอบอื่นในการขนส่ง ทั้งนี้ มาตรการระดับสวนเกษตรกร ที่กรมส่งเสริมการเกษตรได้แนะนำให้ดำเนินการ ประกอบด้วย

  1. มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย อย่างน้อย 1 จุด
  2. มีจุดล้างมือพร้อมน้ำยาล้างมือหรือเจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 จุด
  3. มีแนวกั้นบริเวณอาณาเขตของสวน และมีจุดเข้าออกทางเดียว
  4. การเข้าออกของแรงงานและคนในสวน ห้ามไม่ให้แรงงานของสวนออกจากสวน หรือถ้ามีการออกจากสวนต้องผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิหรือมีมาตรการดำเนินการอื่นๆ
  5. การเข้าออกของบุคคลภายนอก ห้ามบุคคลภายนอกเข้าออกสวนโดยไม่มีความจำเป็น และถ้ามีการเข้าออกต้องผ่านการคัดกรอง และมีการจดบันทึกทั้งคนและรถที่ผ่านเข้าออก
  6. ให้แรงงานและผู้เกี่ยวข้องในสวนได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม
  7. มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและทุกคน
  8. มีการตรวจ ATK ทุก 7 วัน ทั้งเจ้าของสวนและแรงงาน และคนเข้าออกสวนต้องมีใบรับรองผลตรวจ ATK
  9. สวมถุงมือที่สะอาดในขณะที่มีการปฏิบัติงานในสวน
  10. ต้องมีการเว้นระยะห่างของบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร
  11. มีการจดบันทึกทุกขั้นตอนในแต่ละวัน ได้แก่ การเข้าออกสวน ผลตรวจ ATK การวัดอุณหภูมิ การฉีดวัคซีน เป็นต้น

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ได้เตรียมแผนสำรองในการกระจายผลไม้ภายในประเทศใน ในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อ COVID – 19 โดยสถานการณ์เก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนจังหวัดจันทบุรีล่าสุด (ข้อมูล 19 เม.ย.65) มีจำนวน 496,760 ตัน โดยเป็นเกรด A ร้อยละ 80 ซึ่งผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงพฤษภาคม – มิถุนายน กระจายผลผลิตในประเทศร้อยละ 18.77 แปรรูปร้อยละ 10.64 และส่งออกร้อยละ 70.59 ซึ่งกรมฯ ได้เตรียมแผนสำรองในการกระจายผลไม้ภายในประเทศ โดยจัดทำโครงการซื้อขายผลไม้ล่วงหน้า (Pre-Order) โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดร่วมกับ E-Commerce มีรูปแบบการกระจายสินค้า ได้แก่ 1) การขายสินค้าในปริมาณที่มาก โดยผู้ผลิตคือกลุ่มแปลงใหญ่ กลุ่มสมาคมผลไม้ในพื้นที่ 2) การกระจายสินค้าผลไม้ผ่านทาง บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท เคอร์รี่ เอ๊กซ์เพรส (ประเทศไทย) ตลาดสินค้าในห้างสรรพสินค้า และ Platform ThailandPostmart  รวมถึงมาตรการการเก็บรักษาผลผลิตทุเรียนไว้ในห้องเย็นเพื่อรอการจำหน่าย ผ่านโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (EFC = Eastern Fruit Corridor) ผลักดันลงทุนห้องเย็นเปิดตลาดเพื่อส่งออกทุเรียนพรีเมี่ยม

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button