พลังงาน

2 กองทุนสานพลังเสริมแกร่งงานวิจัยและนวัตกรรมนำร่องโมเดลพัฒนากิจการพลังงานสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

ครั้งแรกของประเทศ 2 กองทุนใหญ่จับมือกันเสริมพลังมุ่งพัฒนากิจการพลังงาน เพื่อเป็นแนวร่วมในการจัดสรรงบประมาณและการบริหารจัดการทุนวิจัยผ่านการทำงานร่วมกันของสำนักงาน กกพ. และ สกสว. พร้อมผลักดันสู่การใช้ประโยชน์ในวงกว้าง หวังเป็นโมเดลต้นแบบรองรับการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ความต้องการด้านการวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานของประเทศที่จะเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

วันนี้ (18 ก.ค. 65) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงาน พร้อมทั้งจัดงานเสวนาบทบาทและกลไกสนับสนุนงบประมาณของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าและกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุนส่งเสริม ววน.) ต่อการพัฒนาและส่งเสริมกิจการพลังงานของประเทศ รวมถึงหารือการกำหนดทิศทางการจัดสรรงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติและความต้องการของประเทศ ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ

นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธาน กกพ. กล่าวว่า สำนักงาน กกพ. จะสนับสนุนเงินงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เพื่อกิจการตามมาตรา 97(4) แห่งพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ประกอบด้วย งบสำหรับการวิจัยและพัฒนาที่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติด้านพลังงาน แผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) และกรอบการวิจัยที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานให้ความเห็นชอบ

ขณะที่ ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ระบุว่า สกสว. จะสนับสนุนในเชิงวิชาการ ร่วมเสนอแนะเป้าหมาย ประเด็นและกรอบการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้ข้อมูลความรู้จากการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงาน สนับสนุนระบบบริหารจัดการทุนและจัดสรรงบประมาณในการบริหารจัดการโครงการวิจัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า รวมถึงร่วมมือกับสำนักงาน กกพ. สนับสนุนการเชื่อมโยงฐานข้อมูลงานวิจัยด้านพลังงาน การติดตามประเมินผลโครงการวิจัย และการส่งเสริมการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในวงกว้าง

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ.

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง 2 กองทุนเพื่อดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติในการกำกับกิจการพลังงานของประเทศ ว่าเป็นการส่งเสริมภารกิจของทั้ง 2 หน่วยงาน  เพื่อขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรมของชาติ เดินหน้าสร้างงานวิจัยที่มีคุณภาพส่งต่อให้ถึงมือผู้ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัย สู่การพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ด้านพลังงานของประเทศไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านพลังงานของโลกที่จะเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 ตามที่ได้ให้เจตนารมณ์ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 ผ่านการสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ

รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวเสริมว่า นอกจากการเน้นย้ำประเด็นสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองกองทุนแล้ว ยังรวมถึงบทบาทและกลไกของทั้งสองกองทุนต่อการพัฒนาและส่งเสริมกิจการพลังงานของประเทศ โดยการส่งเสริมการวิจัย พัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้สามารถยกระดับขีดความสามารถ ประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมทั้งผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์ด้านนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการพลังงาน การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และระดับชุมชน ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และการบริหารจัดการ ระบบฐานข้อมูลนักวิจัย ฐานข้อมูลวิจัย การเผยแพร่ผลงานวิจัยและการผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ และตอบสนองต่อความต้องการของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งตอบสนองนโยบายด้านงานวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติตามแผนด้าน ววน. ให้มีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัย และรองรับการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ความต้องการพลังงานของประเทศ โดยจะมีหน่วยบริหารและจัดการทุนของกองทุนส่งเสริม ววน. (PMU) ร่วมขับเคลื่อน ทั้งนี้หน่วยบูรณาการประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ ววน. ด้านพลังงานของ สกสว. ได้รวบรวมสถานการณ์พลังงานทั้งในและต่างประเทศ จัดทำฐานข้อมูลนักวิจัยด้านพลังงานของประเทศ และข้อเสนอแนะในการพัฒนางานวิจัยทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งชี้ให้เห็นศักยภาพ อนาคต โอกาสและความท้าทาย รวมทั้งแผนด้าน ววน. ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ในด้านพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน วัสดุชีวภาพ และเคมีชีวภาพ ให้เป็นระบบเศรษฐกิจมูลค่าสูง มีความยั่งยืนและเพิ่มรายได้ของประเทศ รวมถึงการพัฒนาและเร่งแก้ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการบริโภคอย่างยั่งยืนและเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ โดยใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม

ด้าน รศ. ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักกลยุทธ์และพัฒนากองทุน สกสว. เผยว่า นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่สองกองทุนใหญ่ร่วมมือกันเสริมพลังงานวิจัยและนวัตกรรมด้านพลังงานให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากนี้ทั้งสองกองทุนจะร่วมกันหารือกรอบการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างแนวร่วมที่มีทิศทางชัดเจนในการบริหารจัดการทุน ซึ่งหน่วยบริหารและจัดการทุนภายใต้กองทุนส่งเสริม ววน. จะร่วมกันให้มุมมองเพื่อเพิ่มศักยภาพงานวิจัยและนวัตกรรมด้านพลังงานในมิติต่าง ๆ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ให้เป็นไปตามเป้าหมายและพันธกิจของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าและกองทุนส่งเสริม ววน. ลดความซ้ำซ้อนของการบริหารจัดการทุน หากโมเดลนี้สำเร็จจะเป็นต้นแบบกลไกความร่วมมือของการร่วมทุนสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมกับกองทุนหมุนเวียนอื่น ๆ ต่อไป

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button