พลังงาน

IRPC ชูนวัตกรรมใหม่ต่อยอดธุรกิจสู่”โซลาร์เซลล์-รถยนต์ไฟฟ้า-ยางมะตอย”

IRPC จัดทัพมุ่งกลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ชูเทคโนโลยี-นวัตกรรม ตอบโจทย์ลูกค้า สร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมเปิดแพลตฟอร์ม อี-คอมเมิร์ซ เพิ่มทางเลือกใหม่ จับมือพันธมิตร ที่มีเทคโนโลยีและประสบการณ์ช่วยต่อยอดธุรกิจ โดยใช้เม็ดพลาสติกพีพี คอมพาวด์ เจาะรถยนต์ไฟฟ้าที่ผ่านมาตรฐาน ยานยนต์ญี่ปุ่น และผลิตทุ่นพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ เผยผลิตยางมะตอย เกรดพิเศษ 40 : 50 ออกสู่ตลาด นำร่องถนนพระราม  2  ตอบโจทย์ทำให้ถนนไม่มีการยุบตัว ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นลอน มีกำลังผลิตได้  3 พันตันต่อเดือน

นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้มุ่งเน้น กลยุทธ์ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมมาตอบโจทย์ลูกค้า ให้ได้รับ ความพึงพอใจสูงสุด ทั้งคุณภาพและบริการ พร้อมจัดกระบวนการทำงานภายในใหม่ รวมศูนย์ทั้งฝ่ายขายและฝ่ายวิจัย ให้สามารถดำเนินงานได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมความสามารถการแข่งขันเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialties) ได้มากขึ้น และจะทำให้บริษัทได้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งลดความผันผวนของราคาจากผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้า โภคภัณฑ์ (Commodities) ด้วย

สำหรับความคืบหน้าของการผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำตามมาตรฐาน IMO หรือ องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ ซึ่งกำหนดให้เรือเดินสมุทรใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำ 0.5% จากเดิม 3.5% เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 ขณะที่ปัจจุบัน IRPC สามารถผลิตได้ 52,000 ตัน/เดือน ตามแผน จากกำลังการผลิตรวม 60,000 ตัน/เดือน โดยวางเป้าหมายขายในประเทศ 65% ส่งออก 35%

​อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียและตะวันออกกลางมีความต้องการน้ำมันเตากำมะถันต่ำมากถึง 9.3 ล้านตัน/เดือน จากปัจจุบันมี Supply ในตลาดเพียง 4.7 ล้านตัน/เดือน ซึ่งกำลังการผลิตในปัจจุบันไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด

“IRPC เป็นโรงกลั่นเดียวในประเทศไทย ที่มีหน่วยกำจัดกำมะถันออกจากน้ำมันเตา ทำให้มีความได้เปรียบด้านคุณภาพ โดยเนื้อน้ำมันไม่แยกชั้นเวลาเก็บเป็นสินค้าคงคลัง รวมทั้งต้นทุนการผลิตที่ไม่ผันผวนเหมือนกับผู้ผลิตรายอื่น ซึ่ง IRPC สามารถป้อนน้ำมันมาตรฐาน IMO เข้าสู่ตลาดได้เป็นรายแรกและก่อนระยะเวลาที่มาตรฐานกำหนด” นายนพดล กล่าว

 

นายนพดล กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ยางมะตอยเกรดพิเศษ ว่า IRPC เป็นโรงกลั่นรายแรกในประเทศไทยที่ผลิตยางมะตอย เกรดพิเศษ 40 : 50 ออกสู่ตลาด ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 3,000 ตัน/เดือน และมีโอกาสเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกในอนาคต ผลิตภัณฑ์ยางมะตอยเกรด 40:50 เป็นการรองรับมาตรฐานที่เสริมความแข็งแกร่ง ลดการเกิดร่องตามท้องถนน และมีอายุการใช้งานนานขึ้น โดยภาครัฐได้นำร่องให้ใช้ยางมะตอยเกรดพิเศษใหม่บนถนนพระราม 2 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งผลิตถัณฑ์ดังกล่าวมีคุณสมบัติทำให้ถนนไม่มีการยุบตัว ไม่เป็นคลื่น ไม่เป็นลอน โดยมีกำลังผลิตได้  3 พันตันต่อเดือน

ส่วนธุรกิจปิโตรเคมี IRPC มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องสอดรับกับความต้องการ ของผู้บริโภค และทิศทางธุรกิจที่เติบโต เช่น เม็ดพลาสติกพีพี คอมพาวด์ (PP compound) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผ่านมาตรฐาน ยานยนต์ญี่ปุ่น ทุ่นพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำจากเม็ดพลาสติกเอชดีพีอีคอมพาวด์ (HDPE compound) ที่มีความทนทาน ต่อสภาวะแวดล้อม มีอายุการใช้งานเกิน 25 ปี และท่อน้ำประปาที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกเอชดีพีอี (HDPE pipe grade) ที่ทนทาน ต่อสารคลอรีนมากกว่าท่อน้ำประปาทั่วไป มีอายุการใช้งานมากกว่า 60 ปี เป็นต้น

“IRPC พร้อมรุกตลาดยานยนต์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ทั่วไป รถยนต์พลังงานไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ด้วยผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก พีพี คอมพาวด์ ที่สามารถปรับปรุงคุณสมบัติพิเศษและสีสันต่างๆ ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ (Customized) พร้อมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ”

​สำหรับความคืบหน้าของการร่วมทุนระหว่าง IRPC กับ บริษัท WHA Industrial Estate Rayong Co.,Ltd. เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะดับบลิวเอชเอ รองรับ EEC ในอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง นั้น ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวได้รับการรับรองเป็น เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ ประเภทเมืองใหม่อัจฉริยะ (New City) จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเปิดให้บริการต้นปี 64

นอกจากนี้ ยังมีการขยายความร่วมมือไปสู่ธุรกิจอีคอมเมิรซ์ PLASTKET.COM โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ การให้บริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศจากสมาคมโลจิสติกส์แห่งประเทศไทย รวมทั้ง การสนับสนุนข้อมูลทางเทคนิคและการพัฒนานวัตกรรมจากวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button