พลังงาน

ปาล์มน้ำมันราคาพุ่งกว่า 5 บาท “บิ๊กสน”ขยายโมเดลลุยแก้ปัญหา“อ้อย-มันสำปะหลัง

“สนธิรัตน์” เผยดีเดย์ 1 มกราคม 2563 ประกาศใช้ดีเซล B10 เป็นน้ำมันหลัก ดันตลาดปาล์มน้ำมันสมดุลมากขึ้น เผยราคาในตลาดพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์แตะกิโลกรัมละ 5 บาทกว่าแล้ว ห่วงมีการลักลอบนำเข้าเหตุบางช่วงอาจขาดสต๊อก สั่งปลัดกระทรวงพลังงานคุมเข้มเตรียมการสั่งซื้อล่วงหน้า 3-6 เดือน ปิ๊งไอเดียขยายโมเดลไบโอดีเซลไปสู่เอทานอล แก้ปัญหา “อ้อย-มันสำปะหลัง”ที่ราคากำลังตกต่ำด้วยการนำไปผลิต E20 เพิ่มมากขึ้น

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผย ในวันที่ 1 มกราคม 2563 จะมีการบังคับให้น้ำมันดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดพื้นฐาน และมี B20 ที่ใช้สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ตลาดน้ำมันปาล์มมีความสมดุลมากขึ้น สร้างเสถียรภาพราคาไม่ให้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนราคาในตลาดโลกได้

ทั้งนี้ ในช่วงนำร่องดำเนินมาตรการส่งเสริมน้ำมันดีเซล B10 เป็นระยะเดือนกว่าๆ สามารถยกระดับราคาปาล์มน้ำมันขึ้นมาที่กิโลกรัมละกว่า 4 บาทแล้ว รวมทั้ง B10 ยังช่วยลดฝุ่น PM 2.5 เพราะการส่งเสริมใช้ชีวมวลจากปาล์มช่วยลดการเผาในที่โล่งด้วย

“การขยับ B7 เป็น B10 ช่วยดูดซัพพลายส่วนเกินของปาล์มน้ำมันดิบ (CPO) ทำให้เกิดความสมดุลในการผลิตและการใช้เป็นครั้งแรก แต่ผมห่วงปัญหาใหม่ที่จะตามมาคือ ต้องระวังการลักลอบนำเข้าจะเติบโตแน่นอน เพราะปริมาณน้ำมัน B10 บางช่วงจะขาดตลาด ถ้าการบริหารการสต๊อกน้ำมันไม่ดี ผมจึงมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพลังงานไปดูช่องทางแก้ปัญหาว่าสามารถประกาศซื้อปาล์มน้ำมัน 3-6 เดือนล่วงหน้าได้หรือไม่”

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันล้นตลาดแล้ว ต่อไปในปี 2563 จะส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพในกลุ่มน้ำมันเบนซินต่อเนื่อง เพื่อให้การใช้แก๊สโซฮอล E20 เป็นน้ำมันเกรดหลักในกลุ่มเบนซิน ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาราคาพืชเกษตรประเภทอื่นๆ เช่น อ้อย และมันสำปะหลัง โดยเฉพาะอ้อยตอนนี้กำลังประสบปัญหาราคาในตลาดโลกตกต่ำมาก โดยจะนำเอทานอลที่ผลิตได้จากอ้อยและมันสำปะหลังไปผสมเป็นแก๊สโซฮอลให้มีการใช้เพิ่มมากขึ้น

“ประเทศไทยมีการผลิตมันสำปะหลังน้อยกว่าปริมาณการใช้ แต่แปลกตรงที่ราคายังตกต่ำ เพราะมีการกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะเหมือนกับสินค้าเกษตรประเภทอื่นๆ ที่ต้องมาตายตรงพ่อค้าคนกลางทั้งสิ้น แต่เมื่อไหร่มีการบริหารจัดการตรงคนกลางได้ดี เมื่อนั้นพี่น้องเกษตรกรจะได้สินค้าราคาที่ดีขึ้น ซึ่งต่อไปผมจะนำนโยบายการแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน มาใช้กลไกเดียวกันนี้จัดการกับเอทานอล”นายสนธิรัตน์ กล่าว

ล่าสุดนายกฤษดา ชวนะนันท์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากนโยบายของกระทรวงพลังงานได้ส่งเสริม B10 และจะประกาศให้เป็นน้ำมันหลักในวันที่ 1 มกราคม 2563 ทำให้ราคาปาล์มน้ำมันดิบ (CPO) ขยับขึ้นมาอยู่กิโลกรัมละ 5 บาทกว่า จากที่ราคาเคยตกต่ำสุดไปอยู่กิโลกรัมละ 2 บาท  และคาดว่าแนวโน้มจะขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อบวกกับสถานการณ์ราคาในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น แต่ผลผลิตน้อยลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเกษตรกรโดยตรง

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button