การเงิน

“LH Bank” เปิดกลยุทธ์ปี 62

นางศศิธร  พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช   ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) เปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปี 2562 ว่า ท่ามกลางความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจและการเงินโลก โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ           และจีน ที่ส่งผลต่อการส่งออกของประเทศ แต่เห็นว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปัจจัยขับเคลื่อนในประเทศโดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่มีแนวโน้มเติบโตดี เช่นเดียวกับการลงทุนภายในประเทศที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น จึงมองว่าเป็นทิศทางที่ดีที่จะช่วยให้ทิศทางการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในปี 2562 ขยายตัวต่อเนื่อง

สิ้นปี 2561 บริษัทมีสินทรัพย์รวม อยู่ที่ 245,933 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนร้อยละ 5.5  โดยมีโครงสร้างสินเชื่อ Corporate : SME : Retail ร้อยละ 76 : 11 : 13 มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ในระดับต่ำเพียงร้อยละ 1.93  และสินเชื่อที่ค้างชำระตั้งแต่ 30 – 90 วัน (Delinquency) เพียงร้อยละ 0.99 ของสินเชื่อรวม สะท้อนถึงการควบคุมคุณภาพสินเชื่ออยู่ในเกณฑ์ดี  อีกทั้งมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมและเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ร้อยละ 20.0 และ 17.1 ตามลำดับ

ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในปี 61 มีกำไรสุทธิ 3,108 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนร้อยละ 19.4 สำหรับเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 6-8 ซึ่งยังคงเน้นที่จะเติบโตอย่างระมัดระวังควบคู่กับการรักษาคุณภาพสินเชื่อ โดยธนาคารจะให้ความสำคัญกับการปรับพอร์ตสินเชื่อให้มีความเหมาะสมเพื่อลดการกระจุกตัว

LH Bank ร่วมกับ CTBC Bank ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ และเป็นธนาคารเอกชนอันดับ 1 ของไต้หวัน           มีสินทรัพย์กว่า 4.0 ล้านล้านบาท มีเครือข่ายการให้บริการที่เชื่อมโยงกันถึง 111 แห่ง ครอบคลุมกว่า 14 ประเทศ      ทั่วโลก และมีความเชี่ยวชาญในบริการ Trade Finance บริการ Wealth Management และ Digital Banking ซึ่งได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์  ได้แก่ การให้บริการ LH Bank Mobile Payment Service ผ่านการสแกน QR Code เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้สามารถชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน E-Wallet ชั้นนำจากทั่วโลก

 

การให้บริการ Trade Finance ซึ่ง CTBC Bank มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก และมีเครือข่ายสาขาอยู่  ทั่วโลกกว่า 111 แห่งไว้อำนวยความสะดวก โดยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทั้งนำเข้าและส่งออกที่ครบวงจร พร้อมการให้บริการที่ดี และรได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันภัยคุกคามจากไซเบอร์ Cyber security ซึ่งธนาคารได้ลงทุนพัฒนาระบบ IT security เพื่อรองรับการทำธุรกรรมออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้ปรับภาพลักษณ์ mark Symbolic of CHANGE ภายใต้         คอนเซ็ปต์ “We Are Family” เราคือครอบครัวเดียวกัน พร้อมยกระดับการให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ รวมทั้งการปรับพื้นที่บางสาขาให้มี Private Zone, Private Room เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

ด้านนายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) วางเป้าหมายปี 2562 โดยจะขยายขนาดกองทุนภายใต้การบริหารจัดการให้เติบโตอีก 10 – 20% ซึ่งในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่ค่อยมีใครเข้าถึงมากขึ้น โดยบริษัทได้ร่วมมือกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ Partner ในการสร้างทางเลือกการลงทุนส่วนบุคคลและดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการภายใต้กลยุทธ์ Asset Allocation ที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีในปีที่ผ่านมา

นายกานต์ อรรถธรรมสุนทร กรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจและการตลาด บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Securities) กล่าวถึงแผนธุรกิจในปี 2562 ว่า ปี 2562 เราพร้อมทำการตลาดอย่างเต็มที่บนพื้นฐานของความยืดหยุ่นและระมัดระวัง โดยประสานความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจทางการเงิน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อเติมเต็มผลิตภัณฑ์และบริการให้ครบวงจรมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการใช้บริการ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีและเลือกลงทุนกับเราอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ธุรกิจหลักทรัพย์มีแนวโน้มต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่รุนแรงขึ้น โดยปัจจุบันมีการนำ Robot Trade เข้ามาใช้ซื้อขายในลักษณะ High Frequency Trading (HFT)  ทำให้สภาพการซื้อขายโดยรวมมีความผันผวน บริษัทจึงเปิดให้บริการ Auto Trade ซึ่งเป็นระบบการส่งคำสั่งอัตโนมัติที่ทางระบบจะเป็นผู้ทำการซื้อขายตามสัญญาณซื้อขายในเงื่อนไขที่ลูกค้ากำหนด ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เร่งรีบ และไม่มีเวลาติดตามการลงทุน โดยทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างประสบการณ์การลงทุนที่ดีให้กับลูกค้า

 

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button