การเมือง

สพฐ. ผนึก Dow และ สมาคมเคมีฯ หนุนเด็กไทยเรียนวิทย์แนวใหม่

สพฐ. ผนึก Dow และ สมาคมเคมีฯ หนุนเด็กไทยเรียนวิทย์แนวใหม่ นำการทดลอง “เคมีแบบย่อส่วน” สู่ รร.สังกัด สพฐ.

วันนี้ (11 พ.ค. 65)  สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และ สมาคมเคมีแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ ศ.ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการพัฒนาศักยภาพการเรียนการสอนการทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยหลักการของปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษา” ต่อยอดความสำเร็จโครงการห้องเรียนเคมีดาว ซึ่ง Dow และ สมาคมเคมีฯ ได้ร่วมดำเนินงานมานานกว่า 9 ปี เตรียมพร้อมขยายวิธีการเรียนวิทยาศาสตร์แนวใหม่ไปยังโรงเรียนในเครือ สพฐ. ทั่วประเทศ

เทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน (Small-scale laboratory) เป็นวิธีการทดลองวิทยาศาสตร์ที่ใช้อุปกรณ์พลาสติกขนาดเล็กต่าง ๆ รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ใกล้ตัวและหาได้ง่ายในท้องถิ่น ใช้เวลาในการทดลองสั้นลง ประหยัดสารเคมี น้ำ และพลังงาน รวมทั้งลดของเสียเพราะใช้สารเคมีปริมาณน้อยกว่านับพันเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับการทดลองเดียวกันที่ทำแบบปกติ  มีความปลอดภัยสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีค่าใช้จ่ายน้อย ใช้งานสะดวก ทำซ้ำได้หลายครั้งอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถทำการทดลองที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีห้องปฏิบัติการมาตรฐานซึ่งต้องลงทุนสูง จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำในการเรียนรู้จากการทดลองวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนทั่วประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้นยังส่งผลให้นักเรียนได้มีโอกาสเรียนรู้และลงมือทำการทดลองด้วยตนเองทั้งในและนอกชั้นเรียน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดความสนใจ เข้าใจ และชื่นชอบในการเรียนวิทยาศาสตร์มากขึ้น

โครงการ “ห้องเรียนเคมีดาว” ได้ริเริ่มการส่งเสริมเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2556 โดยมีคุณครูเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 2,000 คน จาก 1,055 โรงเรียน และมีนักเรียนที่มีประสบการณ์การใช้ปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนแล้วมากกว่า 3 แสนคน การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการขยายผลการส่งเสริมเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนไปยังโรงเรียนสังกัด สพฐ. ทั่วประเทศต่อไปในอนาคต โดยในระยะแรกจะนำไปใช้ในโรงเรียนสังกัด สพฐ. 100 โรงเรียนก่อน

นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “การที่สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ให้ความสนใจส่งเสริมการเรียนการสอนแนวใหม่นี้ จะช่วยให้โรงเรียนจำนวนมากสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยสูงได้อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ในฐานะผู้ร่วมริเริ่มโครงการห้องเรียนเคมีดาว มีความชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สพฐ. เล็งเห็นความสำคัญของการทดลองแบบ “ย่อส่วน” เพื่อ “ขยายโอกาส” ทางการศึกษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยสพฐ. จะเป็นกำลังสำคัญในการขยายผลซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการพัฒนาบุคคลกรด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยในอนาคต”

ศ.ดร. สุภา หารหนองบัว นายกสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “สมาคมฯ เป็นผู้ริเริ่มใช้เทคนิคปฏิบัติการทดลองเคมีแบบย่อส่วนในประเทศไทย โดยได้ร่วมกับ Dow ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในด้านการให้องค์ความรู้ การประยุกต์ใช้การทดลองเคมีแบบย่อส่วน มาเสริมการเรียนการสอนในโรงเรียน การส่งเสริมเรียนรู้และทดลองจริงของนักเรียนในโรงเรียน การสร้างเครือข่ายครูต้นแบบเคมีแบบย่อส่วน เพื่อนำไปต่อยอดองค์ความรู้ได้มากขึ้น มีการร่วมกันจัดประกวดโครงงานปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนในแต่ละปีมาตลอด 7 ปี รวมทั้งยกระดับและเผยแพร่กิจกรรมในภูมิภาคอาเซียน โดยความร่วมมือในครั้งนี้ สมาคมฯ จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการ จัดหาบุคลากรผู้ชำนาญที่เหมาะสมกับหลักสูตรฝึกอบรม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาครูต้นแบบ รวมทั้งยังจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในการประเมินผลการเรียนการสอนตามแนวทางการสอนแบบใหม่ของโครงการฯ”

ดร. อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า “ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านการศึกษา สพฐ.เห็นความสำคัญของการยกระดับการเรียนการสอนสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ การนำเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนมาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนให้กับครูและนักเรียน สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอนของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ผ่านมาได้ทำการวิจัยแสดงผลของชุดการทดลองเคมีแบบย่อส่วน พบว่ามีผลเทียบเท่าห้องแล็ปปกติ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างครบถ้วน เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก ทำให้ลดช่องว่างในวิชาวิทยาศาสตร์ได้อีกทางหนึ่งเพราะนักเรียนจะมีโอกาสลงมือปฏิบัติจริงตามแบบเรียนในหลักสูตรที่กำหนดด้วยตนเอง สอดคล้องกับนโยบายของ สพฐ. ที่ต้องการขับเคลื่อนคุณภาพการจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มสมรรถนะผู้เรียน ในศตวรรษที่ 21

“ในปีแรกจะคัดเลือกโรงเรียนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ 100 โรงเรียน พร้อมสนับสนุนค่าชุดทดลอง สารเคมีที่ใช้ในการอบรม ครอบคลุมอย่างน้อย 8 การทดลอง เพื่อให้ครูผู้ร่วมโครงการฯ ได้รับชุดทดลองทั้งหมดไปใช้สอนที่โรงเรียน พร้อมคู่มือการทดลอง และผู้ผ่านการอบรมในโครงการจะได้รับวุฒิบัตรเมื่อผ่านการฝึกอบรม สามารถนำชั่วโมงการอบรมบรรจุในการขอมี หรือเลื่อนวิทยาฐานะของครูผู้สอนต่อไป” นายอัมพร กล่าว

โครงการพัฒนาศักยภาพการเรียนการสอนการทดลองวิทยาศาสตร์ด้วยหลักการของปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษา จะเพิ่มโอกาสให้ครูวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาในสังกัด สพฐ. สามารถนำเทคนิคไปถ่ายทอดและประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนมากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับนักเรียนได้ทำการทดลองด้วยตนเอง  ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีใจรักในการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ที่มีความก้าวหน้าและเป็นสาขาอาชีพที่ยังต้องการมากของประเทศในขณะนี้ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในการทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button